บทความ

บริษัท, ห้างหุ้นส่วน ถูกดำเนินคดีอาญา กรรมการหรือหุ้นส่วนมีสิทธิถูกออกหมายจับหรือไม่ ?

รูปภาพ
  กรณีบริษัท, ห้างหุ้นส่วน ถูกดำเนินคดีอาญา กรรมการหรือหุ้นส่วนมีสิทธิถูกออกหมายจับหรือไม่ ? ตามหลักแล้วบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนใด ๆ ก็ตาม ถือเป็นนิติบุคคลซึ่งกฎหมายสมมุติให้มีสภาพบุคคลเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา ดังนั้น หากนิติบุคคลดังกล่าวถูกฟ้องเป็นคดีอาญาและกรรมการหรือหุ้นส่วนมิได้เกี่ยวข้องกับความผิดนั้นในฐานะส่วนตัว บุคคลนั้นก็ไม่มีฐานะเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่อาจถูกออกหมายจับได้ แต่ในการสอบสวนหรือการพิจารณาคดีใด ๆ พนักงานสอบสวนหรือศาลจะต้องออก #หมายเรียก ผู้แทนนิติบุคคลนั้น ๆ มาให้การหรือกระทำการอื่นใดแทนนิติบุคคล ซึ่งหากกรรมการผู้จัดการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการในกรณีที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดในกรณีเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่ยอมไปตามหมายเรียก ผู้มีอำนาจ #สามารถออกหมายจับได้ เพื่อให้บุคคลนั้นมาดำเนินการสอบสวนหรือดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้นก็จะต้องปล่อยตัวผู้แทนนิติบุคคลนั้นไป ไม่สามารถขังไว้ได้   ที่มา : ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 7 ปรึกษากฎหมาย Facebook Inbox Line

พระภิกษุ รับมรดกได้หรือไม่ ?

รูปภาพ
        #พระภิกษุ มีสิทธิได้รับมรดกของบุคคลธรรมดาหรือไม่ รวมทั้งทรัพย์มรดกของพระภิกษุจะตกได้แก่ใคร?         ตามกฎหมายนั้นพระภิกษุก็ถือเป็นทายาทโดยธรรมและสามารถเป็นผู้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมได้  เพียงแต่กฎหมาย #ห้าม ไม่ให้พระภิกษุฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกในฐานะทายาทโดยธรรมเท่านั้น  ดังนั้น พระภิกษุจึงสามารถรับทรัพย์มรดกได้ไม่ว่าจะโดยพินัยกรรม, โดยความยินยอมของทายาท หรือโดยคำพิพากษาของศาล         ทั้งนี้ หากพระภิกษุประสงค์จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลในฐานะทายาทโดยธรรม จะต้องสึกจากสมณเพศเสียก่อน และต้องฟ้องเรียกร้องภายใน 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตาย หรือนับแต่ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายดังกล่าวและต้องไม่เกิน 10 ปีนับแต่เจ้ามรดกตายเท่านั้น         ส่วนกรณีพระภิกษุถึงแก่มรณภาพ และยังมีทรัพย์สินที่ #ได้มาระหว่างที่เป็นพระภิกษุอยู่ ไม่ว่าจะได้รับมาโดยวิธีใด ทรัพย์นั้นจะตกเป็นของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้นทันที  หากพระภิกษุไม่ประสงค์จะให้ตกเป็นของวัดจะต้องจำหน่ายทรัพย์นั้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ หรื...

ซื้อของแล้วไม่จ่าย ต้องฟ้องภายในกี่ปี ?

รูปภาพ
        เมื่อลูกค้ารับสินค้าที่ซื้อจากเราไปแล้ว แต่ไม่ชำระค่าสินค้าให้   ตามหลักแล้วสามารถฟ้องเรียกร้องค่าสินค้าดังกล่าวได้ภายในระยะเวลาแค่เพียง #2ปี เท่านั้น   เว้นแต่ลูกค้าจะได้ซื้อสินค้าไปเพื่อใช้ในกิจการของลูกค้า กรณีดังกล่าวจะสามารถฟ้องได้ภายในระยะเวลา #5ปี         เทียบเคียงจากบางส่วนของตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาได้ ดังนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2551 : การที่จำเลยที่ 1 ซื้อปูนซีเมนต์จากโจทก์นำไปจำหน่ายหรือนำไปผสมเป็นคอนกรีตผสมเสร็จจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป ย่อมถือได้ว่าเป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของฝ่ายจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้นั้นเอง อันเป็นกรณีที่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 (1) สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (5) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19692/2557 : จำเลยประกอบกิจการอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายกระดาษ จำเลยซื้อก๊าซจากโจทก์เพื่อนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนภายในโรงงานของจำเลยเพื่อผลิตกระดาษอันเป็นกิจการของจำเ...

คู่สมรส ได้รับมรดกหรือไม่ ?

รูปภาพ
#คู่สมรส ที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิได้รับมรดกของสามีหรือภรรยาที่เสียชีวิต โดยแบ่งได้เป็น 4 กรณีเรียงตามลำดับที่มีสิทธิได้รับมรดก คือ 1. กรณีผู้ตายมีผู้สืบสันดานหรือผู้รับมรดกแทนที่ ไม่ว่าบิดามารดาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ คู่สมรสมีสิทธิได้รับมรดก “คนละส่วนเท่ากัน” กับผู้สืบสันดานหรือผู้รับมรดกแทนที่และบิดามารดาที่ยังมีชีวิตอยู่ดังกล่าว 2. กรณีผู้ตายไม่มีผู้สืบสันดานแต่มีบิดามารดา หรือกรณีผู้ตายไม่มีผู้สืบสันดานและไม่มีบิดามารดา แต่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันหรือผู้รับมรดกแทนที่ คู่สมรสมีสิทธิได้รับมรดก “ครึ่งหนึ่ง” ก่อนแบ่งให้ทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ดังกล่าว 3. กรณีผู้ตายไม่มีทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ตามลำดับข้างต้น แต่มี 3.1 พี่น้องต่างพ่อหรือต่างแม่หรือผู้รับมรดกแทนที่ หรือ 3.2 มีปู่ย่าตายาย หรือ 3.3 มีลุงป้าน้าอาหรือผู้รับมรดกแทนที่ ตามลำดับ คู่สมรสมีสิทธิได้รับมรดกจำนวน “สองในสาม” ก่อนแบ่งให้ทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ เฉพาะลำดับแรกที่สุดดังกล่าวเพียงลำดับเดียว 4. กรณีผู้ตายไม่มีทายาทลำดับข้างต้นทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ คู่สมรสได้รับมรดก “ทั้งหมด” เพียงผู...

หากเราเสียชีวิต ใครจะได้รับมรดกเราบ้าง?

รูปภาพ
ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตโดยยังมีทรัพย์สินหรือเหลืออยู่ หากมิได้มีการทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้ใดไว้ ทรัพย์สินนั้น ๆ จะตกเป็นของทายาทโดยธรรมตามที่กฎหมายกำหนด   ซึ่งอธิบายคร่าว ๆ เบื้องต้นตามลำดับที่กฎหมายกำหนดไว้ คือ 1. ผู้สืบสันดาน โดยหลักแล้วคือ “ลูก” หมายความถึงทั้งบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว   และยังรวมถึงบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนรับรองแล้ว   ซึ่งในบางกรณียังอาจรวมถึงหลาน , เหลน , ลื่อ , ... ที่มีสิทธิรับมรดกแทนที่ด้วย 2. บิดา มารดา   ซึ่งกรณีบิดาจะต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น 3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน   4. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน   คือพี่น้องต่างพ่อหรือพี่น้องต่างแม่ 5. ปู่ ยา ตา ยาย 6. ลุง ป้า น้า อา      โดยผู้มีสิทธิรับมรดกนั้น กฎหมายกำหนดให้เรียงตามลำดับข้างต้น คือหากมีทายาทลำดับก่อนแล้ว ทายาทลำดับถัดไปจะไม่มีสิทธิรับมรดกทั้งสิ้น    # ยกเว้น กรณีมีทายาทลำดับที่ 1. คือผู้สืบสันดาน และลำดับที่ 2. คือบิดามารดา กฎหมายกำหนดให้ทั้งสองลำดับมีสิทธิได...